หากว่ากันในทางทฤษฎีการจะบอกว่าแมทระหว่างหงส์แดง ลิเวอร์พูล กับไก่เดือยทอง ท็อตแน่ม ฮอต สเปอร์ส ซึ่งจะคิกออฟกันกลางสัปดาห์นี้จะเป็นเกมตัดสินอนาคตพื้นที่ ฟุตบอลยุโรป ของทั้งสองทีมก็คงจะดูเร็วเกินไป
เพราะหลังจากจบเกมนี้ก็ยังเหลือเกม และจำนวนแต้มอีกพอสมควรเหมือนกัน เรียกได้ว่าเพียงพอที่จะพลิกชะตาทีมกันได้นั่นแหละ แต่หากว่ากันในทางปฏิบัติแล้วก็นั่นแหละครับ
เกมนี้นับว่าเป็นเวลาเหมาะสมแล้วล่ะสำหรับการตัดสินอนาคตของทั้งสองทีมว่ามีดีพอที่จะได้สิทธิ์ฟุตบอลยุโรปซีซั่นหน้าหรือเปล่า เนื่องจากปัจจัยโดยรอบด้านเวลานี้มันเอื้อ หรือกล่าวอีกนัยนึงว่าบีบบังคับให้เกมนี้ต้องเป็นเกมแห่งการตัดสินจริงๆ
อย่างในเรื่องของจำนวนแต้มเวลานี้ ลิเวอร์พูล รั้งอันดับ 7 ก็มีแต้มตามหลังสเปอร์สที่รั้งอันดับห้า (เป็นพื้นที่สุดท้ายที่จะได้โควต้าฟุตบอลถ้วยยุโรปใบเล็ก) อยู่สี่แต้ม หากชนะก็จะไล่บี้เหลือหนึ่งแต้ม และกับการที่พวกเขา (ลิเวอร์พูล) สามารถที่จะเอาชนะสเปอร์สได้มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกเขาจะไม่สามารถเก็บแต้มไล่แซงสเปอร์สได้จากแมทการแข่งขันที่เหลืออยู่
หรือหากมองในมุมสเปอร์สอันสืบเนื่องจากแมทที่แล้ว ซึ่งพวกเขาสามารถเปิดรังไวท์ฮาร์ทเลนโค่นทีมปืนโต อาร์เซน่อลได้ หากพวกเขาสามารถเอาชนะลิเวอร์พูลได้ต่อเนื่องอีก มันก็จะนับเป็นโค่นสองทีมใหญ่ และสองทีมที่เป็นคู่แข่งในการแย่งพื้นที่ฟุตบอลยุโรปลง
ฉะนั้นย่อมไม่มีเหตุผลอะไรเช่นกันที่จะมาบอกว่าพวกเขา (สเปอร์ส) จะไม่ดีพอสำหรับการรักษาฟอร์มการเล่นให้คงเส้นคงวา ณ ช่วงเวลาของการแข่งขันที่เหลืออยู่ในซีซั่นนี้จนเป็นหนึ่งทีมที่เข้าป้ายคว้าโควต้าฟุตบอลยุโรปถ้วยใบเล็กเป็นอย่างน้อยที่สุดเมื่อจบซีซั่น หรือหากมองไปที่ทีมอย่างเซาธ์แฮมป์ตัน แมนฯยูไนเต็ด รวมถึงอาร์เซน่อลด้วยก็ตามที่อยู่ในกลุ่มแย่งพื้นที่ยุโรปกับทั้งสอองทีม ก็ล้วนแต่เป็นทีมที่มีแต้มอยู่ใกล้ๆกัน
เพราะอย่างนั้นแล้วหากลิเวอร์พูล หรือสเปอร์สมาพลาดท่าแพ้ในเกมนี้ ทีมเหล่านี้ก็พร้อมที่จะเพิ่มโอกาส เพิ่มความได้เปรียบให้ตนเองในการแย่งพื้นที่ฟุตบอลยุโรป ไปพร้อมๆกับลดโอกาสของทีมผู้แพ้ในเกมศึกสัตว์ปีก (ลิเวอร์พูล-สเปอร์ส) ทันที โดยเฉพาะลิเวอร์พูลที่เวลานี้ต้นทุนแต้มน้อยกว่าทีมอื่น
Comments are closed.